ความสัมพันธ์ระหว่างสื่อสารมวลชนกับอำนาจรัฐ

บทนำ
         ลักษณะเด่นของพื้นที่สาธารณะ คือการสนทนาอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมเกิดขึ้นโดยไม่มีการบังคับข่มขู่ ชักจูง คุกคาม หรือออกคำสั่ง

ความหมายของความสัมพันธ์ (Relation)
        ความสัมพันธ์  มีความหมายเกี่ยวกับ ความเกี่ยวข้อง,ความเกี่ยวพัน,ความข้องเกี่ยว
หากพิจารณาในมิติควมสัมพันธ์ระหว่างสื่อสารมวลชนกับการเมือง จะเห็นว่า สื่อมวลชนมีบทบาทเป็นตัวกลางเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและช่วยสะท้อนความคิดสาธารณะสู่ผู้บริหารประเทศ 

ความหมายของอำนาจรัฐ(State power)
       อำนาจรัฐ(State power) หรืออาจเรียกอีกอย่างหนึ่งก็ได้ว่า อำนาจอธิปไตย(Sovereignty) คือ อำนาจเดียวกันเป็นอำนาจสูงสุดที่ใช้ปกครองประเทศหรือรัฐ เป็นอำนาจเด็ดขาดปฏิเสธไม่ได้มีความเด็ดขาดถึงขั้นประหารชีวิตคนได้ ในรัฐหรือประเทศหนึ่งๆจะมีอำนาจเดียว แต่แบ่งการใช้ออกได้ 3 ทาง คือ
         1.ใช้ตรากฎหมาย หรือ นิติบัญญัติ
         2. บังคับใช้กฎหมาย หรือ การบริหาร
         3. การวินิจฉัยกฎหมาย หรือ ตุลาการ

เจ้าของและผู้ใช้อำนาจรัฐ
         ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาสิทธิราช  ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจรัฐแต่ข้าราชการยังเป็นผู้ใช้อำนาจรัฐอยู่เหมือนเดิม หรือเจ้าของอำนาจรัฐและผู้ใช้อำนาจรัฐแยกจากกัน

ปัญหาของผู้ใช้อำนาจรัฐ
          ปัญหาที่ผ่านจะเห็นได้ถึงการใช้อำนาจ ทั้งในส่วนรัฐ และประชาชน ที่ยังมีความเข้าใจไขว้เขวโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชน ที่มีความเข้าใจถึงความสำคัญของการเป็นเจ้าของอำนาจรัฐน้อย  ดังจะเห็นได้จากงานของ พรทิพย์ ทับแว่ว และ ปกรณ์ ประจันบาน(2554)ศึกษาการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น กรณีศึกษา เทศบาลตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ พบว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนโดนภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง  งานชิ้นนี้สอดคล้องกับงานวิจัยอีกหลายชิ้น เช่น งานของ คมฉัตร ตันเสถียร(2537) พบว่าประชาชนยังให้ความสำคัญเกียวกับการมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถินอยู่ในระดับหนึงอีกทั้งยังขาดความรู้ความเข้าใจเกียวกับบทบาทหน้าที่ของตนเอง เลยทำให้ไม่สนใจหรือละเลยเรืองการคิด การตัดสินใจหรือการดำเนินงานของหน่วยงานราชการ 
  
         เมื่ออำนาจรัฐ หรือ อำนาจอธิปไตยดังกล่าวเป็นอำนาจสูงสุดของประเทศ เพราะเป็นของใหม่ในขณะนั้นจึงไม่สนใจ ข้าราชการจึงใช้อำนาจรัฐได้โดยเสรีเพราะเจ้าของอำนาจ คือ ประชาชน ไม่มีสิทธิ์ในการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐนอกจากนั้นความเกรงกลัวข้าราชการ  คือคิดว่าข้าราชการยังเป็นนาย
มในประเด็นเหล่านี้ วิรัช วิรัชนิภาวรรณ(2530) จึงได้กล่าว รัฐจะต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้พัฒนาโดยมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นบ้างมิใช่ใช้แรงงานอย่างเดียว

ทฤษฎีวิพากษ์ภายใต้ความสัมพันธ์ระหว่างการสื่อสารมวลชนกับอำนาจรัฐ 
        ทฤษฎีวิพากษ์โดย(Jurgen Habermas)มีส่วนอย่างสำคัญที่จะช่วยให้ผู้คนมีความเข้าใจดีขึ้นเกี่ยวกับเรื่อง การสื่อสารระหว่างบุคคล (interpersonal communication) และวาทกรรมสาธารณะ (public discourse) โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาได้สร้างทฤษฎีต่างๆขึ้นมาเกี่ยวกับวาทกรรม และการปฏิบัติการด้านสื่อสาร (human communication action) ซึ่งเป็นการบุกเบิกแนวคิดใหม่ๆ ในการมองเรื่องกฎหมายและประชาธิปไตย

        Jurgen Habermas  พูดถึงสิ่งที่ทำให้เขาเรียกว่า “ideal speech situation”  ซึ่งเป็นสถานการณ์ทางภาษาแบบอุดมคติ ซึ่งควรจะนำมาใช้ในทุกสังคมทุกหนทุกแห่ง Habermas  มองว่า ระบบสังคมสมัยใหม่มีแนววิวัฒนาการไปสู่ความซับซ้อนมากขึ้น (systematic complexity) ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะมองเห็นความโปร่งใสทางวาทกรรมในความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ เมื่อเป็นเช่นนี้ ideal speech situation ที่มนุษย์สื่อสารกันอย่างอิสรเสรีไร้การถูกครอบงำ/ควบคุม และอยู่ในสถานการณ์ที่โปร่งใส
“พื้นที่สาธารณะ” มีแนวโน้มที่จะถูกรุกล้ำ/ครอบงำ  จากอำนาจ เงินตรา อำนาจ และกฎหมาย ที่จะจำกัดศักยภาพในการแสดงความคิดเห็น ดังนั้น ราจะมีวิธีการป้องกันอย่างไรโดยไม่ให้อำนาจรัฐ เข้ามาควบคุมโลกชีวิตและพื้นที่สาธารณะได้ โลกชีวิตและพื้นที่สาธารณะจะสามารถป้องกันตัวเองได้หรือไม่ และเราจะยุติ/ยับยั้งการคุกคามของระบบได้อย่างไร


1.เอกสารประกอบการบรรยาย

อ้างอิง
     1. ปรีชา เปี่ยมพงศ์สานต์. (2553). ทฤษฎีวิพากษ์ของเจอร์เกน ฮาเบอร์มาส และแนวคิดพื้นที่สาธารณะทางการเมือง.
     2. พรทิพย์ ทับแว่ว และ ปกรณ์ ประจันบาน. (2554). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น : กรณีศึกษาเทศบาลตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์.รป.ม นโยบายสาธารณะมหาวิทยาลัยนเรศวร.
     3.คมฉัตร ตันเสถียร. (2537). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนในเขตเทศบาล: ศึกษา
เฉพาะกรณีเทศบาลเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร.วิทยานิพนธ์ กศ.ด. (สาขาพัฒนา
สังคม) กรุงเทพมหานคร: บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันพัฒนบริหารศาสตร์.
     4.วิรัช วิรัชนิภาวรรณ. (2530). การบริหารและการจัดการทรัพยากรทางธรรมชาติ : บทบาทของ
องค์กรในท้องถิ่น. กรุงเทพมหานคร. โอเดียนสโตร์.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น